อ้างอิงเนื้อความของคุณต้า เรื่อง "ลุกก่อน 20 นาที รับฟรีชาเขียว 1 กล่อง”
การประกาศให้คนออกจากร้าน buffet แล้วจะได้ของอะไรสักอย่างนั้นไม่รู้ว่าคนคิดคิดออกมาได้ลึกมากแค่ไหนแล้วไม่รู้ว่ามีการวิเคราะห์หรือคาดหวังผลออกมาอย่างไรบ้าง แต่ว่าจะดูราวกับว่าวิธีการนี้จะเป็นวิธีทีทำให้คนออกมาร้านได้เร็วขึ้นแบบมีแรงจูงใจ แต่มองไปมองมาวิธีการนี้ไม่น่าจะได้ผลมากมายนักเพราะว่าที่ร้านก็มีน้ำประเภทเดียวกันนี้ให้ดื่มอยู่แล้ว กะแค่ร้อยกว่า cc แก้วเดียวเอากลับบ้าน .เอ ไม่รู้ว่าคนอื่นเค้าจะคิดว่าอยากได้เหรอป่าว แต่ว่าผมเคยอยู่ในสถานการณ์นี้ คือ คนมันเยอะ คนรอก็เยอะเค้าก็จะประกาศว่าถ้าหากว่าออก ณ เวลานี้จะมีของสมนาคุณ (ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร แต่ว่าโดย sense ก็จะรู้อยู่หรอกว่ามันต้องไม่คุ้มค่าสักเท่าไหร่ น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ชาเขียวอย่างหนีไม่พ้นเพราะต้นทุนนั้นต่ำเหมือนขยะ) แต่ผมลองสังเกตคนดูไม่ได้มีคนใส่ใจเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เรียกว่า จะบอกไปแบบนี้ไม่ได้ทำให้คนที่อยากจะนั่งต่อลุกออกไปได้ แต่ะจทำให้คนที่กำลังจะออกลุกตัดสินใจว่าเวลานี้เป็นเวลาออกที่ดีกว่า การที่เดินออกไปตัวเปล่าเท่านั้นเอง
มูลค่าการนั่งกินที่ร้านแบบ buffet ไม่ได้อยู่ที่ว่าจะนั่งนานแค่ไหนแต่ว่ามันขึ้นอยู่กับว่ามันอิ่มแล้วหรือยังมากกว่า แค่ 1.20 hrs เวลาเท่านี้คิดว่าร่างกายไม่สามารถที่จะทำให้กลับมาหิวใหม่ได้แน่นอนดังนั้นแล้วถ้าหากว่ากินแล้วอิ่ม ณ เวลา 30 นาทีแรก เวลาที่เหลือจะไม่มีคุณค่าใดๆสำหรับคนๆนั้นอีกต่อไป (กรณีที่มาคนเดียวน่ะครับ) สำหรับคนที่ยังไม่อิ่มและคิดที่จะกินต่อ จะไม่มี effect ใดๆจากประกาศที่ว่า เพราะรู้อยู่แล้วว่าการได้กินต่อนั้นย่อมคุ้มค่ากว่าการเดินออกไปเป็นแน่ (ถ้าหากว่ายิ่งคิดออกว่าของที่จะได้เป็นแค่น้ำชาทีมีให้กดอย่างไม่อั้นที่ร้านแล้ว ยิ่งเลิกคิดไปได้เลย)
โดยสรุปแล้วคนที่จะลุกออกไปน่าจะเป็นพวกที่อิ่มแล้ว แล้วรอให้คนอื่นอิ่มพร้อมๆกันเท่านั้น หรือว่ากำลังจะออกอยู่แล้วแต่ว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะออก ผมเดาเอาว่าถ้าหากว่าไม่ได้มีการศึกษาถึงเวลาเฉลี่ยทางสถิติว่าคนทำอะไร ณ เวลาไหน อิ่มด้วยค่าเฉลี่ยเวลาเท่าไหร่ แล้วล่ะก็ .. ผมคงเดาเอาก่อนว่าจะทำให้คนที่คิดจะออกแล้วออกได้เร็วกว่าเดิมไม่น่าจะเกิน 10 นาที (เพราะคนอิ่มกันทั้งโต้ะแล้วก็น่าจะรอเพื่อออกจากร้านไม่นานมากเท่าไหร่นัก เพื่อจะนั่งคุยกันหลังอิ่มเท่านั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะนั่งต่อไปเพื่อให้ได้นั่งครบเวลา หรือ ถ้าหากว่ามีของมีคุณค่ามากกว่าน้ำชาแล้วคนเหล่านี้รู้เช่นถ้าหากว่าเป็น บัตรกำนันมูลค่า 300 บาทเพื่อมากินครั้งหน้า แนวโน้มคือ เวลาที่ busy ที่สุดและคนเยอะรอเยอะที่สุด ก็จะรอเพื่อให้มีประกาศแบบนี้) เพราะฉะนั้นแล้วมูลค่านั้น คนจะเดาออกได้ว่ามันจะต้องไม่มากเกินไปแน่นอน (แม้ว่าเค้าเหล่านั้นจะไม่ได้คิดวนเวียนลึกล้ำประมาณนี้แต่ว่ามันคิดออกมาได้ด้วยจิตใต้สำนึกไม่ยากอย่างไม่จำเป็นต้องมีระบบคิดเป็นเหตุผลให้สลับซับซ้อนอะไร) อย่างไรก็ตามการเอาชาเขียวมาล่อแน่นอนว่ามันจะดีกว่าการที่เดินออกไปตัวเปล่าครับ ต้นทุนต่ำกว่าการที่จะเปิดโอกาสให้คนเข้ามาได้เร็วขึ้นอีก 10 นาทีในโต้ะที่กินอิ่มแล้ว ยังไง้ๆก็คุ้มค่าที่จะประกาศออกไปอย่างนั้นอยู่ แต่ไม่แนะนำให้เพิ่มมูลค่าของที่ให้อย่างเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เพราะมันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนมากินในร้านได้ในท้ายที่สุด
1 comment:
ดีครับพี่อู๋
แหมมิน่าทำไมคนเ้ข้ามาอ่านบล็อกผมเต็มเลย 55 เรื่องนี้มองได้ต่างกับผมดีและมีเหตุผลในตัวนะครับ
ชอบๆความคิดพี่นะครับ มองอีกมุมก็เห็นด้วยนะ อิอิ
/น้องต้าร์
Post a Comment