Monday, November 30, 2009

เที่ยวเมืองกาญฯ : พักที่ภูไอยรารีสอร์ท

IMAGE_437 IMAGE_435 IMAGE_436
เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาผมไปเที่ยวกับที่บ้านเข้าใจว่าเป็นการเที่ยวรอบพิเศษเพราะไม่ได้มีเหตุผลว่าเป็นการเที่ยวปีใหม่หรือว่าไม่ได้เป็นการเที่ยวเทศกาลอะไรครับ คนที่ไปด้วยก็จะมีแค่คนที่บ้านเท่านั้นเอง (ป่าป๊าหม่าม้าแล้วก็น้องสาวครับ) โดยรวมแล้วการเดินทางถึอว่าสะดวกสบายเอามากๆเพราะว่าไม่ต้องแย่งไม่ต้องแก่งแข่งอะไรกับใคร ที่กินที่เที่ยวก็ดูสบายๆ แค่ว่าผิดคาดไปนิดหน่อยเพราะว่าคาดว่าอยากจะให้มันหนาวกว่านี้แต่ก็ไม่ได้หนาวอะไรมากมายครับ (กลางคืนก็ไม่ได้หนาวครับต้องเปิดแอร์นอน) ที่เที่ยวก็เป็นที่เที่ยวที่คนไม่ค่อยจะได้ไปครับ เช่น เหมืองปิล็อก ที่หาข้อมูลในเน็ตก็จะไม่ค่อยจะเจอว่าหน้าตาเป้นยังไง เพราะว่าผมไปแล้วมันก็ไม่มีอะไรใหถ่ายภาพน่ะครับ มันก็เป็นภูเขาที่มีรูๆ เป้นร่องรอยจากการทำเหมืองเมื่อโบราณก่อนนู้นครับ แล้วก้เที่ยวเจดีย์สามองค์( เป็นภาตบังคับว่าต้องมา ) แต่ว่ามาแล้วก็ไม่มีอะไรมากนอกจากเจดีย์สามองค์กับการได้ซื้อพันธ์กล้วยไม้(ป่า)กลับมาครับ แล้วก็ไปเดินเล่นที่สะพานข้ามแมวน้ำแคว ตอนที่เดินๆอยู่ตอนนั้นจะมีการจัดงานแสงเสียงซึ่งเย็นๆผมก็ไม่ได้ดูอีกเพราะว่ามันไม่ได้ใกล้ที่พักสักเท่าไหร่ครับ ก็ไปถึงก็เช้ามากคือประมาณ 10:30 น ของวันเสาร์ ตอนที่เดินๆก็มีเรื่องให้ตื่นเต้นเล็กน้อยครับ คือ เดินอยู่ที่สะพานมันเป้นทางให้รถไฟแล่นผ่านแล้ว รถไฟก็มาครับทำให้ทุกคนต้องหลบออกมาไปด้านข้างซึ่งก็มีพื้นที่ไม่มากเท่าไหร่ ทำให้รู้เลยว่า เมืองไทยเราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากแค่ไหน (ประชดน่ะครับผม) แล้วผมก็มีไปสะพานมอญเป็นสะพานไม้เก่าๆที่ตอนนี้ก็กำลังซ่อมแซมอยู่ครับ เดินไปเดินกลับดูบรรยากาศ ถ่ายรูปเล่นครับ

พูดถึงที่พักคราวนี้ก็ถือว่าโอเคระดับนึงครับ คือ ภูไอยรา รีสอร์ท เป็นบ้านพักไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดีน่ะครับก็เหมือนกับ style ที่กำลังเป็นที่นิยม ณ เวลานี้น่ะครับแต่ว่าผมก็ไม่ได้อยู่ห้องมากเท่าไหร่ครับ เพราะไปถึงก็ค่ำๆแล้วก็ไปกินข้าวก็ที่พักนี่น่ะหละครับ แต่ว่าที่เป็นประเด็นก็คือ ที่นี่จะมีบริการให้เช่า ATV (ไม่รู้ย่อมาจากกอะไร) มันก้เป็นเหมือนกับยานพาหนะสี่ล้อที่ล้มยาก กดเพื่อเร่งเครื่องแล้วกำลังส่งในการออกตัวค่อนข้างดี ก็เลยจัดแจงจองไว้แล้วก็เช้าวันอาทิตย์ออกเดินทางชมสภาพภูเขาและการใช้ชีวิตของคนแถวนั้นด้วย ATV กัน ผมไปกับน้องแล้วก็ป่าป๊าน่ะครับ เดินทางทั้งหมด 5 คัน คือจะมีเจ้าหน้าที่นำหนึ่งคันแล้วก็เจ้าหน้าที่อีกคนปิดหลังไว้ครับ แล้วเราสามคนก็อยู่ตรงกลางขี่กันเรียงหนึ่งไปเรื่อยๆดูวิวรอบตัว มันก็เหมือนขับรถน่ะหละครับแต่ว่า ก้นจะสั่นตลอดเวลาแล้วก็เส้นทางแบบใกล้ชิดสุดๆ เรียกว่าขนดอกหญ้าถูแขนกันเลยก็ว่าได้ แล้วที่น่าประทับใจก็คือเส้นทางนี้จะผ่านบ้านคน(ที่ป่าป๊าบอกว่าพวกนี้บุกรุก)ที่เค้าเป็นชาวบ้านทำการเกษตรอยู่ครับ เมื่อเราขับ ATV ผ่านไปเด็กๆก็จะโผล่ออกมาบ้ายบายกับเราเหมือนกะว่าเราเป็นตัวประหลาด เฮอะๆ ไม่หรอกเค้าเห็นเราเป็นนักทอ่งเที่ยวน่ะครับก็่ต้องทักทายกันเป็นทำเนียมครับ เท่านี้ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการได้แวะเวียนเข้าไปในหมู่บ้านที่รถยนต์ธรรมดาเข้าไปไม่ถึงแล้วล่ะครับ ^^

ตอนเดินทางกลับก็ยิงยาวเหนื่อยครับ .. บางคนอาจจะคิดว่าการเที่ยวเป็นการ charge bat. ให้เต็มแต่ผมว่ามันก็เป็นใช้พลังงานที่ต้องออกแรงกันน่ะครับ เฮอะๆ ..แล้วแต่มุมมองครับผมอันนี้ .

No comments: