อ้างอิง link เกี่ยวกับทัศนะวิจารณ์ เรื่อง คนไม่เลือกข้าง .. ก็เอามาคิดต่อว่าทำไมคนเราไม่เลือกข้าง ไม่เลือกสี
เป็นบทความที่บอกว่า "ไม่เลือกข้าง" แปลว่าเลือกแล้ว แล้วก็ไม่ได้เลือกว่าจะอยู่สีไหน แต่ผมอยากคิดแตกเพิ่มเติมหน่อยน่ะครับว่า คนไม่เลือกสีเหล่านี้มีความคิดเบื้องลึกอะไรกันแน่ ?
คนที่ไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องการบ้านการเมือง : แน่นอนว่าพวกนี้ไม่มีสีไม่มีข้าง ไม่ขอมีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่รับรู้ ไม่จำเป็นต้องรับรู้ เช่น พระสงฆ์(ที่ประพฤติเหมาะจะเป็นพระสงฆ์) เด็กทารก เด็กอ่อน คนเป็นอัมพาต คนที่ใกล้ตายและปลงโลกแล้ว เป็นต้น คนเหล่านี้จะได้รับผลกระทบไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นไปในทิศทางใดก็แล้วแต่ แต่สุดท้ายก็จะหนีผลกระทบนี้ไม่ผลอย่างแน่นอน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะเบาหรือแรงแล้วแต่ความไหลเข้าผ่านทางโลกมากแค่ไหนเท่านั้น สำหรับเด็กแล้วแน่นอนว่าตัวตนจะต้องไหลเข้าสู่ทางโลกมากขึ้นทุกขณะ เมื่อโตขึ้นจะต้องกินต้องใช้ ต้องออกสังคม ทำงานถ้าหากว่าเด็กที่กำลังจะโตยังอยู่ในสังคมไทย การกระทำใดๆ จะต้องมีผลให้แก่เด็กคนนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คนที่สนใจการบ้านการเมืองและสนใจตัวเอง (มันจะส่งผลต่อตัวเขาเหล่านั้นแม้จะไม่กระทำการใดๆ) แต่ไม่อยากจะเข้าข้างเพราะเค้าคิดว่าแนวคิดที่มีอยู่ให้เลือกเป็น option แค่ไม่กี่ option ไม่เข้าท่า คนพวกนี้ผม(เดา)ว่าน่าจะมีเยอะอยู่พอสมควรเพราะ มองไม่เห็นทางออกจากการเลือกข้าง ไม่รู้ว่าจะกระทำอะไรเพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหว แล้วผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะดีเพียงพอต่อการกระทำ (เลือกข้าง) ของตนหรือไม่
คนที่สนใจการบ้านการเมืองและสนใจตัวเอง (มันจะส่งผลต่อตัวเขาเหล่านั้นแม้จะไม่กระทำการใดๆ) แต่ไม่อยากเข้าข้างเพราะกลัวต่อผลลัพธ์ในการเลือกข้าง : มนุษย์ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ ถ้าหากว่าเลือกข้างแล้วตนเองมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แล้วผลลัพธ์ออกมาพบว่าตนเป็นเหยื่อหรือเครื่องมือในการดำเนินการบางอย่าง หรือ ผลลัพธ์ของการเลือกข้างของตนออกมาไม่ดีอย่างที่อยากจะให้เป็นแล้ว จะทำให้ตนเองรู้สึกผิด เพราะตนเองได้มีส่วนต่อการกระทำนั้นๆด้วย ทางที่ดีอย่างเลือกข้างจะดีกว่า จะไม่เกิดความรู้สึกผิดต่อการเลือกข้างนั้น แม้การไม่เลือกสี ไม่เลือกข้างจะเป็นการกระทำ แต่เป็นการกระทำของคนส่วนใหญ่ถ้าหากว่าเกิดผลลัพธ์ใดแล้ว ความรู้สึกผิดนั้นจะกระจายตัว หรือ ผ่อนกว่ากรณีของการเลือกกลุ่มสีใดๆที่มีปริมาณที่น้อยกว่า
คนที่ไม่เลือกข้าง แบบผู้สังเกตการณ์ : คนบนโลกนี้อื่นๆที่คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ(หรือมีเล็กน้อยแค่สะกินเท่านั้น) จากสภาวการณ์ของการบ้านการเมือง และการปกครองของประเทศไทย เช่น Homeless ที่นอนอยู่ที่ถนนในอเมริกา ผู้คนที่ประสบภัยเฮติ ชาวเขาชาวดอย คนชาติอื่นๆที่ไม่ได้ทำการติดต่อค้าขายกับประเทศไทย เป็นต้น แน่นอนว่าคนเหล่านี้"ไม่มีสี" ไม่เลือกข้างไม่ว่าประเทศไทยจะมีสีหรือข้างให้เลือกก็ตาม มันไม่ได้ส่งผลใดๆกับความเป็นอยู่ของเค้าแม้แต่น้อย ไม่จำเป็นต้องคิดวิเคราะห์ สนับสนุนฝ่ายใด หากคนไทยที่อยู่ในสภาวะการณ์นี้ก็จะตกเข้าไปใน คนไม่เลือกข้างกรณีแรกสุด เพราะถ้าหากว่าเป็นคนไทยอยู่ในไทยแล้วไซร้จะได้รับผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง (ยกตัวอย่างเช่น คนเป็นอัมพาตที่ต่อสายอากาศนอนอยู่บ้าน ถ้าหากว่าเศรษฐกิจไทยเลวร้าย ทำให้คนดูแลไม่มีเงินเพื่อจ่ายค่ารักษา อาจจะทำให้แนวโน้มในการถอดสายอากาศออกมีมากขึ้นได้ ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ถอดสายจะไม่เกิดก็ตาม แต่ ความเป็นไปได้จะมีมากขึ้น เป็นต้น)
คนไม่เลือกข้าง เพราะรับได้ทุกอย่าง และปรับตัวอยู่กับสภาวการณ์นั้นๆ : แม้ว่าเหตุการณ์จะเป็นไปในรูปทางใด จะไม่ขอมีส่วนเกี่ยวข้องให้ตนเองมีความรู้สึกผิด ถ้าหากว่าผลลัพธ์ออกมาไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตามที่ตนเองคาดหวัง แต่กลุ่มคนเหล่านี้ จะเป็นมนุษย์ (หรือสัตว์ประเภทหนึ่ง) ที่มีการปรับตัวต่อสภาวะแวดล้อมได้ ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของคนเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ดี และ เค้าเหล่านั้นก็ยอมรับ ในสภาวะการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบใดก็ตามได้ เช่น พวกพ่อค้า ไม่ว่าสถาการณ์จะเป็นอย่างไร สิ่งที่คิดหรือทำ ไม่ได้เป็นการเลือกข้างแต่ใช้สถานะการเพื่อการหาประโยชน์จากสังคม หรือนำเสนอประโยชน์ต่อคนอื่นแล้วแปลงประโยชน์ที่ส่วนเกินมาเป็นความมั่งคั่งร่ำรวยของตนเองได้ หรือถ้าหากว่าสถานการณ์แย่มาก คนเหล่านี้ก็มองแค่ตนเองลักษณะการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจของตนมากขึ้นไปอีก
No comments:
Post a Comment