Thursday, February 19, 2009

ตอบคำถามบริหารหัวยามเช้าว่า ทำไมคนเราไม่คำนึงถึงสุขภาพ?

มีคนถามที่กระทู้ของ th.answers.yahoo.com ว่าทำไมคนเราถึงไม่คำนึงถึงสุขภาพเป็นประเด็นที่น่าคิดก็เลยตอบซะหน่อย เป็นการบริหารหัว และการคิดเขียนยามเช้าน่ะครับ

คุณคิดว่าคนส่วนใหญ่ใช้ร่างกายแบบลืมคำนึงถึงสุขภาพเพราะเหตุใด?

เพราะคิดว่าร่างกายไม่เสื่อมสภาพ และขาดความรู้ว่ามันเสื่อมสภาพได้หากว่าเราไม่ได้ดูแลรักษามันเอาไว้ให้ได้ นานมากที่สุด คนส่วนใหญ่ที่ใช้ร่างกายอย่างไม่คิดว่ามันจะเสียหายนั้น ก็เพราะว่าไม่เคยเจอว่าร่างกายมันเสียหายให้เห็นอย่างชัดเจน เอาความรู้สึกตอนเป็นเด็กมาคิดแล้วก็คิดว่ามันจะเหมือนกับตอนเด็กๆคือมแต่จะ ดีขึนและแข็งแรงขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องรักษามัน แต่ความเป็นจริงแล้วตอนเด็กเรามีกิจกรรมต่างๆนานาเพื่อให้ร่างกายเราแข็งแรง ผ่านกระบวนการ'เล่น' กิจกรรมที่ออกแรง ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งไล่จับหรือเกมส์กลางแจ้งต่างๆ เมื่อยังคิดว่าร่างกายจะอยู่เหมือนเดิม คนเราก็จะไม่คิดที่จะรักษาหรือป้องกันความเสื่อมอันนั้น หรือแม้แต่พยายามยื้อเอาไว้ก็ไม่คิด
เรื่องเวลาล้วนเป็นข้ออ้างเพื่อการ "ขี้เกียจ" ดูแลตัวเองเท่านั้น เพราะหากว่าจะดูแลเสียอย่างแล้วไซร้ เราก็จะหาเวลาเพื่อทำการกิจกรรมเพื่อให้ตัวเราเองดูแลตัวเราเองได้อยู่ดี
การดูแลร่างกายหลักๆน่าจะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเด็นใหญ่ก็คือ
1.การไม่ไปตรวจสุขภาพ : ความคิดเป็นโบราณ (เพราะว่าผมเคยเห็นคนที่คิดแบบนี้) คือ การคิดว่าถ้าเราไม่รู้ซะ เราก็ไม่ต้องมากังวล แล้วก็ไม่ต้องไปคิดค้นหามันไม่เสียเงินค่าตรวจอีกตะหาก ดีจริงๆ .. คนเราคิดแบบนี้ผมว่าน่าจะเป็นพวกคนอดีตชาติที่หลุดออกมาจากภพก่อน เพราะ คิดว่าร่างกายดีไม่เสียไม่หาย ถ้าหากว่าเสียหายก็สามารถซ่อมได้ และมองว่าอาการของปัญหาสุขภาพต่างๆมันเห็นได้อย่าชัดเจน แต่ความเป็นจริงนั้น หากว่าเราเจอก่อนและเจอได้เร็วแม้ยังไม่ได้ออกอาการของโรคมันน่าจะดีกว่า หรือไม ่? เพราะหลายโรคหากว่าเจอเร็วจะรักษาได้ง่ายกว่า หรือเรามีเวลาเพื่อปรับชีวิตการดำเนินชีวิตของเราให้เหมาะสมเพื่อป้องกัน อาการของโรคได้ไม่ยาก
2. การไม่ออกกำลังกาย : เรื่องนี้จะคิดกันว่าไม่มีเวลา แต่ผมก็บอกอีกน่ะหละว่าหากว่าไม่มีเวลาก็คงไม่มานั่งอ่านบทความนี้ก็เป็นได้ เพราะเค้าไม่รู้ว่า การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดูแลรักษาสุขภาพให้มึความเสื่อมที่ลด ลง ผมเห็นกับตา กับคนรุ่นพ่อ ถ้าหากว่าคนที่อยู่รุ่นเดียวกันนั้น คนหนึ่งนั่งๆนอนๆ เพราะมีอันจะกิน (แน่นอนว่ามีเวลาแน่ๆแบบนี้) แต่ก็ไม่ได้ออกกำลังกาย ผลก็คือ ความ fit ของเรื่องกายแตกต่างกัน นั่นแค่สภาพภายนอก ยังไม่ต้องพูดถึงระบบทางไหลของเลือด(ท่อเลือดว่ามันตันหรืออุดไว้แค่ไหน) หรือว่า เรื่องโรคอ้วน หรือโรคอื่นๆที่คน "นิยม" เป็นกัน
3. การไม่ระวังการกินอาหาร : พวกนี้จะตามใจปาก เราไม่รู้ตัวหรอกว่า แค่ของหวานมันมีอาการเสพติด ต้องระวังในการกิน และยังมีแนวคิดอยุ่ว่าถ้าหากว่าไม่มันไม่อร่อย ทำให้ไม่เลือกว่าจะเป็นของมันหรือของหวานหรือเค็มจัด หรืออะไรก็สุดแล้วแต่ที่เราเองก็รู้ว่ามันอันตรายต่อสุขภาพสุดท้ายก็เอาเข้า ปากไป อืม ..แล้วก็ลืมๆมันซะเพราะว่ามันไม่ได้มีผลเดี๋ยวนี้นี่หน่า
ถ้าหากว่าขี้เกียจ ระวังการกิน ขีเกียจไปตรวจสุขภาพ และขี้เกียจออกกำลังกาย ก็หมายความแค่ว่าเราไม่ได้ดูแลตัวเราแม้แต่น้อย หรืออยากให้คนอื่นดูแลให้เหรอครับ ? การคิดขี้เกียจแบบนี้นะหละ ทำให้ตัวเราเองพยายามละเลยและลืมคำนึงถึงสุขภาพไปโดย เป็นการทำให้ตัวเราเองไม่รู้สึกผิด อันเนื่องมาจากที่ว่า เราน่ะหละ คิดหาข้ออ้างได้ร้อยแปด ไม่ว่า ไม่มีเวลา ต้องหาเงิน ต้องทำนู้นทำนี่ .. แต่เค้าเหล่านนั้นไม่รู้ตัวเหรอครับว่า อะไรสำคัญที่สุด .. กันแน่..

ที่มา:http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20090218035155AAO8rXl

No comments: