มันเป็นเหตุว่าทำไมต้องว่าจ้างมือปืนรับจ้าง ทำไมไม่ทำอะไรเองไปเลยล่ะถ้าหากว่ามันแค้นนัก หรือเพราะว่ายังคิดแบบคนดีอยู่ ไม่อยากทำเพราะว่ากลัวบาปให้คนอื่นทำให้จะได้ไม่บาป แท้ที่จริงแล้ว คนเราจะทำอะไรที่มันเลวร้ายอย่างงั้นได้ มักจะหาทางทำให้ตัวเองคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร เพื่อเป็นการลดความหนักใจหลังมีการกระทำนั้นเกิดขึ้นแล้ว เรียกได้ว่า เหมือนกับว่าคนอื่นทำ ตัวเค้าเอาไม่ได้ทำอะไร ทั้งๆที่เป็นคนสั่งหรือว่าต้นตอแห่งความคิดมาจากเค้าคนนั้น
มันเป็นเหตุผลอยู่เหมือนกันว่า ทำไมุการทำร้ายกันแบบว่าจ้างถึงเกิดขึ้น เพราะว่าคนทำก็ไม่ได้คิดว่าตัวเค้าเอาเป็นทำหรอก เพราะว่าทำไปเพราะต้องการหาเลี้ยงตัวเองต่างหาก คนที่ทำ คือ คนที่สั่ง ไม่ใช่ตัวเค้า แต่เค้าก็ไม่รู้หรอกหรือว่าถ้าคิดแบบนั้นมันก็เป็นการทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนปกติ หรือเป็นการทำให้ตัวเองไม่รู้สึกไม่ดี สำหรับคนที่ทำให้เกิด action การทำร้ายกันนั้น ทางวิทยาศาสตร์เหมือนจะมีการทดสอบเอาไว้ คนที่ทำร้ายคนอื่นจะรู้สึกผิดน้อยลง เหมือนกับว่าไม่ได้ทำผิดอะไรด้วยซ้ำ และนั่นก็เป็นเหตุผลอีกอย่างที่ว่าทำไมระบบของทหาร สำหรับการสู้รบจะต้องมีระดับชั้นเพื่อสั่งการมากมายก่ายกองนัก ก็เพราะ จะทำให้พลทหารไม่รู้สึกผิดที่จะต้องทำลายทำร้ายคนที่ตั้งชื่อเอาไว้ว่าเป็นศัตรูทั้งๆเค้าเหล่านั้นก็เป็นคนเหมือนกันดีๆนี่เอง ณ ตอนที่ไมได้อยู่ในสภาวะสงคราม
เหตุการณ์เหล่านี้ผมรู้สึกได้กับตัวผมเองเลยก็มีน่ะครับ ก็เช่น เมื่อไม่นานมานี้ (ตะกี้นี้) คนขับรถผมจะ u turn รถแต่ว่าเค้าแซงรถคันอื่นๆที่ต่อคิวกันแล้ว ทำให้เราเป็นคนตัดหน้ารถคันอื่นๆทั้งๆที่มีคิว ผมเป็นคนนั่งผมไมได้เป็นคนขับ ถ้าหากว่าผมเป็นคนขับผมจะไม่ทำแบบนี้เพราะว่ามันรู้สึกผิด คนอื่นเค้าเข้าแถวกัน เรามาแซงแบบนี้ ความรู้สึกในใจก็ไม่ดีแล้วน่ะครับ แต่แล้ว พอคนขับรถเป็นคนทำ ในใจกลับคิดซะว่า อืม ..ก็เร็วดีไปซะอย่างงั้น อ้าวทำไม เราคิดอย่างงี้ล่ะ ทั้งๆที่การกระทำก็เหมือนๆกัน ก็เพราะว่า เราก็คิดว่าตัวเราไม่ได้ทำเองแต่ว่าเราได้รับประโยชน์จากการกระทำ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นตัวเองก็จะไม่ทำยังไงล่ะครับ ผมก็เลยมาคิดต่อว่าทำไมมีระบบว่าจ้างเพื่อทำร้ายคนอื่น ทำไมคนว่าจ้างไม่รู้สึกผิดอะไร ทำไมคนรับจ้างไม่รู้สึกผิดอะไร เพราะแท้ที่จริงแล้วคนเราแต่ละคนล้วนมีความสำนึกผิด แลเป็นคนดี หรือ อยากเป็นคนดีต่อคนอื่นๆกันทั้งนั้น แค่ว่า เค้าต้องคิดอะไรไปแปลกออกไปจากปกติแน่ๆเท่านั้นเองครับ
ลองมอง case ที่เบากว่านี้สักหน่อยก็น่าจะดี การกินเนื้อสัตว์ เราในฐานะคนกิน (ผู้บริโภคน่ะหละถ้าหากว่าพิมพ์ให้ดูดีหน่อย) เราเกิดอยากกินไก่กินเนื้อกินหมู แต่ว่าเราก็คว้าเอาซากเนื้อสัตว์เหล่านั้นมาจาก super market ช่องแช่เย็นอยากไม่ได้รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อบ แค่รู้สึกแค่ว่ามันเป็นแค่อาหารของเราเท่านั้น นั้นก็แปลว่า ระบบการ distribute จากโรงปลิดชีวิตสัตว์ มาจนถึงมือคนกิน ทำให้ความรู้สึกผิด สำหรับการกินเนื้อสัตว์อันตธานหายไประหว่างทางได้ไม่ยากเย็น แม้แต่เด็กก็เลือกเนื้อสัตว์หรือยากกินไก่ทอดได้โดยไม่ได้รู้สึกถึงการทำลายชีวิตเลยแม้แต่น้อย
เหตุผลก็น่าจะเป็นเหตุลผเดียวกัน คือ คนสั่งไมได้รู้สึกผิด (ได้ผลประโยชน์ เช่น การกิน อร่อยเป็นต้น) คนปลิดชีวิตสัตว์ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเพราะว่าเป็นการได้รับคำสั่งมาหรือเป็นโรงงาน คนอื่นบอกให้ทำเราก็ทำ ไม่ผิดอะไรนี่หน่า ทั้งสองเหตุผลนี้ทำให้ระบบการทำลายชีวิตเกิดขึ้นได้โดยทุกคนรู้สึกดีเหมือนปกติ หรือ ถ้ารู้สึกไม่ดีก็แค่นิดหน่อย แม้แต่เด็กไร้เดียงสาก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรแม้แต่น้อยน่ะครับ
ว่าแล้วก็กิน steak เนื้อต่อไปด้วยความไม่รู้สึกรู้สาอะไร ..
No comments:
Post a Comment