ปกติแล้วพวก music video จะบอกกับคู่กรรมของเราว่า "เธอดีเกินไป" หรือ ในทางตรงกันข้ามก็แปลว่ากำลังบอกว่า "ตัวเองนั้นเลวเกินไป" ซึ่งถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ตาม logic แล้วคนที่ฟังคำพูดแบบนี้จะเกิดอาการเสียใจเพราะว่า ชั้นมันเป็นคนดีทำให้เธอต้องเลิกรากับชั้นอย่างงั้นหรือ เสียใจหนักหน่วงเพราะเรื่องแบบนี้มันแก้อะไรไม่ได้เพราะถ้าไม่ดีทำไมต้องมาชอบตั้งแต่ทีแรก แหม ถ้าหากว่าชอบคนเลวๆไม่ดีแล้วไซร้ใยเล่าต้องมารักกัน อืม .. เหมือนกะที๋โน้ตอุดมมักจะเอามาเป็นมุขแซวน่ะหละครับ การบอกด้วยการใส่นิเสศน์ปกติแบบนี้ เหมือนจะบอกว่าคนบอกเลิกนั้นเลว แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นการเน้นว่า ทำไมมาเลือกคนดีอย่างงี้ได้ โอ้ว เพราะว่าเค้ายังเห็นว่าดีอย่างงี้ยังบอกว่าเลวอีก ฟังแล้วอาจจะงงๆ คือง่ายๆดีกว่าครับ มันแปลว่า สิ่งที่ทำก็คือต้องการจะรักษาภาพลักษณ์ให้ออกมาดูดี แม้ว่าจะเกิดการเลิกรากันแล้วนั่นเอง แล้วแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียใจครับ
ถ้าหากแบบนั้นลองคิดและทำกลับทางกันดูได้ไม่ยาก วิธีการก็คือ ถ้าหากว่าลองบอกเลิกด้วยการบอกว่า "ชั้นดีเกินไป" หรืออีกทางก็คือจะบอกเป็นนัยว่า "เธอนั้นเลวเกินกว่าจะรับได้" เป็นวิธีการที่จะไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจ แม้แต่น้อย ขอย้ำว่าแม้แต่น้อย แต่อารมณ์ที่พึงเกิดก็คิอความโกรธและเกลียดเข้ามาแทนที่ครับ หรืออีกทางที่เป็นไปได้ก็คือ ความรู้สีกดีเหลือเกินที่ทิ้งคนนี้ไปได้ เพราะ มันแย่เกินไปแล้วขนาดแบบนี้ยังจะบอกว่าตัวเองดีอย่างงั้นอยู่ดี แล้วก็มาว่าชั้นอีกว่าดีเกินไปยังไงอย่างงั้น และนี่ก็เป็นวิธีการที่ทำให้อีกฝ่ายที่ต้องโดนบอกเลิกไม่เสียใจครับ ถ้าหากว่าต้องการไม่ให้เกิดความเสียใจเพราะตัวเองรู้ว่าเรื่องนี้ที่เดิมหน้าไปด้วยกันไม่ได้นั้นมันเกิดเพราะตัวเองหรือตัวตนเองแท้ๆแล้ว อย่าทำให้คนอื่นเสียใจจะดีน่ะครับ จงรับความกดดันความรู้สึกที่จะต้องโดนมองว่าไม่ดีไว้กับตัวผ่านมุมมองของผู้ถูกบอกเลิกไว้เองจะดีกว่า อย่าไปทำให้คนอื่นต้องเกิดความทุกข์ใจ แต่กลับทำให้เค้านั้นรู้สึกดีและสาแก่ใจน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า อารมณ์เสียใจเป็นไหนๆครับ แต่เงื่อนไขอีกข้อก็คือว่า เค้าเหล่านั้นจะต้องไม่ได้อ่านบทความนี้ด้วยเช่นเดียวกันครับ เค้าต้องคิดเหมือนกับคนปกติที่คิดเท่านั้นมันถึงจะเป็นไปตามเงื่อนไขนี้ได้ครับ ไม่อย่างงั้นก็จะย้อนกลับทิศของความรู้สึกอีกครั้งได้ หรือ อย่างน้อยที่สุดก็จะเกิดความสับสนของอารมณ์ และ ความคิด หรือไม่แน่ใจว่าตนเองนั้นจะต้องคิดอย่างไรกันแน่
หลักๆแล้ววิธีการที่เล่าให้ฟังนี้ ผมเห็นน้อยคนนักจะใช้กันน่ะครับ แต่มีคนทำแบบนี้แน่นอนครับ คือ การทำให้ตัวเองดูแย่ เกินกว่าที่จะรับได้ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียใจแก่การเลิกราครั้งนั้นๆไป เช่น วิธีการทำตัวเหมือนเจ้าชู้ วิธีการบอกชื่อคนอื่นเป็นกิ้กเบอร์ 2 ,3 หรือ 4 วิธีการเมมเชื่อเบอร์ทุกคนเป็นผู้หญิงชื่อนั้นชื่อนี้ทั้งหมด ไม่ว่าใครก็ตามที่โทรมา หรือ วิธีการกดดันอื่นๆใดๆที่ทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพอันไม่พึงประสงค์ของอีกฝ่าย มันทำได้เยอะวิธีการมากๆ สุดที่จะบรรยายครับ ซึ่งการทำแบบนี้มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรมากมายนัก แต่ต้องเตือนหน่อยว่าคุณก็ต้องรับได้เช่นเดียวกันที่จะทำให้คนอื่นจากไปโดยไร้ความเสียใจแม้แต่น้อยได้ แล้วคุณนั้นก็อมเก็บงำความคิดความทุกข์นั้นเอาไว้เอง หรือ ไม่ก็คุณต้องปลงอารมณ์ได้จริงครับ แบบนั้นก็จะไม่มีใครอยู่สภาวะของอารมณ์เศร้าแม้แต่คนเดียว เป็น minimum regret ของทั้งสองฝ่ายด้วยกันทั้งคู่เลยครับ วิธีการนี้จะกินเวลาน้อยมากๆ สำหรับคนปกติทั่วไป แต่จริงๆแล้วมันก็มีวิธีการอื่นอยู่เหมือนกันแต่ว่ามันกินเวลามาก คือ การทำให้สภาพความเบื่อหน่ายเกิดความชินชาขึ้นมาและทั้งสองฝ่ายพร้อมที่จะผละจากกันโดยไม่เกิดอารมณ์เสียใจอย่างมากอออกมาได้ แต่อย่างว่ามันกินเวลาเหลือเกินแล้วก็กรณีผู้หญิงจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากครับ เพราะการกินเวลาทำให้ผู้หญิงซึ่งมี bio-clock สำหรับการแต่งงานหรือสืบพันธ์ในวัยที่เหมาะที่ควรนั้นลดลงไปได้ นั่นก็แปลว่า นอกจากคุณผู้ชายจะเป็นคนที่ไม่สนว่าเค้าจะเสียใจแค่ไหนแล้วยังจะไม่สนด้วยว่า เค้าจะเหลือเวลาเพื่อไปเลือกคนอื่นๆต่อไปได้อีกมากน้อยแค่ไหน มันเห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยเหรอป่าวครับแบบนั้น..
No comments:
Post a Comment