วันก่อนได้ไปฟังสัมนาเกี่ยวกับการ Design ในการตลาด ก็ยังแปลกใจว่า มันแปลว่าอะไรอยู่เหมือนกันครับ แท้ที่จริงแล้วมันก็คือ การออกแบบการนำเสนอและออกประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการให้แตกต่างออกไปจากที่เคยเป็นหรือที่เคยมีมาก่อน กรณีที่ผมเอากลับมาคิดก็ได้แก่ การตลาดของโรงบาบเจ้าพระยา เรื่องคุณหมอเฉพาะทางเที่ยงคืน ผมได้ยิน ads ตัวนี้มาหลายครั้งแล้วทางววิทยุแต่ก็ไม่ได้สังเกตอะไรแค่ผมคิดว่ามันก็แค่การแข่งขันทำให้ต้องบีบหมอหรือรพ.เพื่อให้ทำอะไรที่มากกว่าคนอื่นเพื่อเสนอต่อประชาขนหรือสังคม เหมือนกับทื่เด็กต้องไปเรียนพิเศษมากกว่าคนอื่นเค้าเท่านั้นเอง แต่ว่าหลังจากที่ฟังเหตุผลว่ามันต้องออกแรงเพื่อที่ present ไอเดียนี้ผ่านกรรมการท่านอื่นๆหรือว่าเพื่อทำให้หมอคนอื่นๆเค้ามาอยู่กันกลางค่ำกลางคืนดูๆแล้วมันก็ไม่ได้เป็นง่ายสักเท่าไหร่ แล้วก็ผลลัพธ์คือ การคิดที่ขยายตลาดเพื่อการ present โรงพยาบาลเพื่อให้มี innovative product แบบนี้กลับกลายเป็นความคิดฐานเพื่ออกแบบ (Design) ตลาดใหม่ออกมาด้วยซ้ำ กรณีนี้ผมเข้าใจว่า demand มีอยู่แล้วแต่ว่าไม่เคยคิดกันมาก่อนหรือว่าลงมือทำมาก่อนมากกว่า เพราะ แค่รู้สึกได้ทันทีว่าถ้าหากว่าเราเกิดปัญหาเฉพาะเรื่องตอนไหน ที่รู้จักกังวลใจจริงๆเราก็จะไปหาหมอกันตอนนั้นเลยครับ ส่วนมาแล้วก็จะเป็น ประมาณทุ่มสองทุ่มเห็นจะได้ ผมเคยไปรพ.ดึกสุดๆก็ประมาณสักสามท่มกว่าก็จะเหลือหมอแบบเข้าเวรกี้กเอาไว้แบบว่าหมอทั่วไปน่ะครับไม่ได้เฉพาะทางอะไร แต่รพ นี้โชว์ว่ามีผู้ป่วยจากที่อื่นๆในบริเวณอื่นๆที่ไม่มีหมอ ณ เวลานั้นไหลเข้าที่ รพ แห่งนี้แทน เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตลาดใหม่กันเลยก็ว่าได้
ยังมีอีกกรณีที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาคนซื้อรวมทั้งเป็นการสร้างกระแส คือ ยามาฮ่า ที่ฟังๆมาไม่น่าเชื่อว่าแต่ก่อนจะมีการนำเสนอสินค้าเรื่องความทนทาน แต่ว่าเดี๋ยวนี้มีการรู้จักลูกค้ามากขึ้นเพื่อให้เกิดความภูมิใจกับมอเตอร์ไซด์ที่เค้าเหล่านั้นซื้อไปมาก แล้วก็มีการปรับสโคปของลูกค้าให้มากกว่าเดิม (แปบว่าแคบกว่าเดิมน่ะครับ) นำเอา presentor ที่เหมาะสมกับตลาดมานำเสนอ ซึ่งแนวคิดแบบนี้เป็นการคิดแบบ designer หรือ สินค้าประเภท fashion อยู่แล้วโดยปกติ คือ ต้องมี ผู้แทนแบรนด์ มาเป็น key หลักในการส่งผ่านสินค้าจากโรงงานไปยังใจของคนซื้อน่ะครับ จ้าวนี้ก็เอา clash หรือว่าพวกวง boy band ดังๆที่สาวๆหรือกะลังอินสำหรับวัยรุ่น ณ ตอนนั้นๆมานำเสนอกัน ผมว่าทางยามาฮ่าก็ต้องภูมิใจที่รักษายอดหรือว่าเป็นผู้นำตลาดสำหรับกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้แน่นอนน่ะครับ แหม เอาใจวัยรุ่นได้ทำไมจะไม่อยากทำล่ะครับ ล่าสุดมีการเน้นให้ออกมาแต่งรถกันก็เรียกว่าน่าจะตรงประเด็นเอามากๆสำหรับสินค้าเพื่อให้แต่งรถ เหมือนกะว่ามันเป็นของเล่นยังไงอย่างงั้นเลยแต่ว่ามีราคาหน่อยเท่านั้นเอง ก็เป็นการนำเสนอได้อย่างตรงประเด็นอีกแล้วว่าสินค้าเชิง fashion ทำให้แตกต่างจากคนอื่นไม่เหมือนกันใคร (ผมคิดว่าเค้าก้ไม่ได้อยากแต่งต่างอะไรหรอก แค่ว่าอยากจะ present ความเป็นคัวเองผ่านวัตถุหรือเสื้อผ้าเท่านั้นเอง มันอาจจะเหมือนใครก็ได้ไม่ว่ากันน่ะครับ)
ส่วนเรื่องของโก๋แก่ที่ฟังนั้นดูเหมือนจะเจอกับปัญหาเดิมๆของระบบกงสีคือว่า เรื่องเดิมๆทำมาอย่างไรจะต้องทำตามนั้น แม้ว่าจะเป็นรุ่นสองหรือสามเข้ามาทำก็่ต้องมี concept เดิมเอาไว้เป็นหลักทำให้เกิดการหักดิบในการ dfesign หรือเพื่อทำอะไรบางอย่าง เช่นลักษณะห่อสินค้าหรือ concept ในการนำเสนอ ซึ่งเดี๋ยวนี้โลกเราเปลี่ยนไปแล้วความคิดแบบเดิมหรือการคิดแบบไม่เปลี่ยนแปลงไว้นั้น ถ้าหากมองเป็นเรื่อวดีมันก็ดีได้เหมือนกันแต่หากมองว่าไม่ดีมันก็ไม่ดีได้เช้นเดียวกัน ยังไงก็แล้วต้องทดสอบแล้วก็ดูผลเอาก็น่าจะดีกว่า โก๋แก่จะ present เรื่องซองของเค้าเอามากๆว่าเมื่อมีการ design ใหม่เพื่อการสื่อสาร (เพราะเป็นทางเดียวที่โก๋แก่ทำเพราะว่าไม่ได้ทำ ads ผ่านสื่อใดๆมานานมากแล้ว) ทำให้มี effect ต่อยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ แล้วก็มี present เกี่ยวกับเรื่องการเข้าใจแย่งตลาดของสินค้าตัวเอง เพื่อวิเคราะห์ความเป็น market share ออกไปได้ฉลาดกว่าเดิม คือ เค้าคิดว่าให้แยกแยะเป็นสินค้าประเภทถั่วเคลือบและถั่วไม่เคลือบออกจากกันอันเนื่องมาจากผู้บริโภคมองสินค้าเหล่านี้ทั้งสองส่วนไม่เหมือนกัน พวกเคลือบจะเป็น snack ส่วนไม่เคลือบจะเป็นสินค้า basic แล้วก็พูดออกมาคำนึงว่าการทำแบบนี้ คือ แยกแยะจัดหมู่สินค้าตามมุมมองลูกค้าจะเป็นการทำ product portfolio (มันก็คือมีอยู่แล้วนั่นเองวิธีการนี้) ผมก็ว่าจริงๆแล้ว เราก็น่าจะแบ่งสินค้าของเราบ้างเหมือนกันน่ะครับ
โดยสรุปแล้วเนื้อหาดีมากน่ะครับสำหรับสัมนาครั้งนี้คิดว่าถ้าหากว่ามีจัดอีกก็จะไปฟังอีกได้แนวคิดอะไรมาเยอะเหมือนกันเยอะกว่าที่จะพิมพ์ออกมาด้วยซ้ำน่ะครับ
No comments:
Post a Comment