เมื่อวานนี้เย็นๆไปหาหมอฟันมาที่โรงบาลฟันซอยสุขุมวิท 49 แล้วก็หาอะไรกินกันต่อที่ร้าน shabu shabu ที่เคยกินอยู่ทั้งหมดก็คิดว่าน่าจะเป็นห้าหกครั้งแล้ว เป็น แบบ buffet ครับ ร้านนี้ชื่อว่า “akiyoshi” (อากิโยขิ) ตั้งอยู่ที่อาคารไทยสินสแควร์ หรือ ถ้า BTS ก็ตรง BTS พระโขนงพอดีแป้บหัวบันได้เลยก็ว่าได้
shabu ๆ ที่เห็นนี่ไม่ได้ถือว่าอร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยได้กินมาน่ะครับ แต่ว่าก็คิดว่าน่าจะอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินในประเทศมาแล้วเท่านั้นน่ะครับ (เพราะว่าถ้าจะอร่อยจริงๆต้องหากินทั้งโลกครับ) ปกติแล้วการกิน shabu shabu น่าจะกินหน้าหนาว แต่ว่าอากาศมันต้องหนาวจริงมันถึงจะได้อารมณ์ครับ ไม่เหมาะกับอากาศร้อนๆของบ้านเมืองเราสักเท่าไหร่ แต่แหมที่ร้านเค้าก็เปิดแอร์มันก็ร้อนอยู่ดีน่ะครับ เพราะว่าแต่ละหม้อนี่ก็พ่นก๊าซกระป๋องกันไม่ใช่เบาๆที่ไหน แอร์ไม่มีทางสู้ได้น่ะครับ อีกอย่างเรานั่งอยู่ใกล้เตามากกว่าใกล้แอร์เป็นไหนๆครับ กินไปกินมามายังไงก็ร้อนอยู่ดีครับ
ร้านนี้ ณ เวลานี้เป็น Buffet คิดเป็นหัวหัวละ 390 บาทแล้วครับ เค้าจะมีสองอย่างคือ shabu กับ สุกี้ (sukiyaki) แต่ว่าผมก็กินแต่ shabu น่ะครับเพราะว่าอะไรน่ะเหรอ ถ้าหากว่าโต้ะนั้นมีสองอย่างพร้อมกัน เค้าจะเก็บเงินเพิ่มไปอีก 40 บาทต่อหัวทั้งๆที่คนที่กิน suki ก็มีแค่คนเดียวเท่านั้น (เค้าไม่สนหรอกว่าใครจะกินไม่กินแต่ว่าอยู่โต้ะเดียวกันมันก็คว้ากันกินได้ถูกเหรอป่าวล่ะครับ ) เพราะฉะนั้นแล้วหากว่าจะไปกินแล้วก็ต้องตั้งใจว่าจะกินอะไรอย่างเดียวเท่านั้นน่ะครับ แต่ว่าถ้าสั่ง Sukiyaki ก็จะไม่มีน้ำจิ้ม shabu มาให้ครับถ้าหากว่าจะเอาเพิ่มก็ต้องสั่งอีกคิดเป็นราคาต่อสุด สรุปก็คือว่า ผมไปก็แค่สั่ง shabu แล้วก็บอกว่าทุกคนกินเหมือนกันเท่านั้นถึงว่าจะเป็น optimal solution สำหรับการสั่งอาหารร้านครับผม เลือกแค่อย่างเดียวเพื่อนกินเท่านั้นครับ
เนื้อที่กินผมกินเนื้อวัวน่ะครับ (แต่ว่าที่ร้านเค้าก็จะมีหมูให้ด้วยถ้าอยากจะกิน แหม แต่ว่าถ้าจะกินยังไงๆ ผมก็ว่าต้องกินกะเนื้อน่ะครับมันถึงจะได้ความเป็นของแท้ดั้งเดิเสียหน่อยน่ะครับ ) เนื้อที่ได้มาหากว่าไม่ได้เลือกอะไรเค้าก็จะ random ส่วนที่มีการหั่น slide เอาไว้แล้ว serve มาอย่างสุ่มน่ะครับ จากการสังเกตหากว่าสั่งมามากกว่า 1 จานพร้อมๆกัน ส่วนที่ได้จะเหมือนๆกันเพราะฉะนั้นถ้าอยากินคละส่วนของเนื้อวัวแล้วล่ะก็ไม่ต้องสั่งมาทีเดียวทำการทยอยสั่งจะดีกว่าครับ ผมดูไม่ออกหรอกครับว่าส่วนไหนมันเป็นส่วนไหน แม้แต่พนักงานเองผมก็ว่าเค้าก็ไม่รู้หรอกคนที่รู้จะมีแค่คนเดียวก็คือผู้ที่ทำการ slide น่ะหละเพราะว่าเค้าเห็นสภาพเป็นกอ้นๆอยู่ครับ คนอื่นๆไม่ได้เห็นเป็นก้อนอีกต่อไปครับ กลายเป็นแผ่นๆกันไปหมดแล้วครับ เนื้อที่เห็นในภาพจะมีมันแทรกอยู่ เมื่อทำการจุ่มน้ำร้อนแล้วมันก็จะหดตัวอย่างรวดเร็ว แต่ว่าถ้าคนไม่ชอบกินมันเนี่ยะก็จะกินส่วนพวกนี้ลำบากหน่อยน่ะครับ อย่างว่าล่ะครับ พ่อผมเค้าก็บอกว่า ถ้าหากว่ากินเข้าไปน่ะ มันเข้าง่ายแต่ว่ามันออกยากน่ะครับ ! (จริงๆหละกว่าจะเอาออะไรมาได้เนี่ยะ เหนื่อยไม่น้อยเลย) ส่วนมากแล้วตอนที่ผมสั่งก็บอกเค้าว่า “น้องครับของเนื้อที่หนึ่งแต่ว่าอย่างเอามันมากน่ะครับ” เค้าก็จะไปเอามาส่วนที่เค้าคิดว่ามันไม่มันเท่าไหร่ แต่ว่าเค้าก็ดูไม่ออกจริงๆน่ะหละครับ เพราะอย่างที่เอามามองภายนอกมันไม่เห็นมันเท่าไหร่ เพราะว่าเนื้อและมันมันแทรกตัวระหว่างกันครับ ทำให้สุดท้ายอยากจะแยกมันออกจากเนื้อก็ทำได้ยากและทุลักทะเลพอควรครับ สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องมันอยู่แล้วเรื่องแบบนี้ก็ละไปได้เลยครับเพราะว่า โอกาสที่คุณจะเจอเนื้อแผ่นมันแทรกแบบนี้เยอะกว่าแบบที่มีแต่เนื้อๆอยู่แล้วน่ะครับ เอาเป็นว่าลองไปกินกันดูแล้วกันนะครับเห็นราคาแล้วอาจจะดูเหมือนแพงแต่ว่า ก็หาที่อื่นดีๆที่กินแล้วคุ้มกว่านี้ ณ เวลานี้ยังหาไม่เจอน่ะครับ มีคนแนะนำได้ก็น่าจะดีน่ะครับผมจะได้ตามไปหม่ำครับ ..
No comments:
Post a Comment