ผมไปงานเปิดตัว Chic Club ที่โรงแรม King Park Avenue ทแถวบางนาน่ะครับไกลจากบ้านเอาการน่ะครับ ก็ไม่เป็นไรเพื่อนพ่อเค้าให้ลูกชายเค้าบริหารโรงแรมนี้ทั้งโรงแรมแล้วก็พยายามทำเป็น Club นี้ขึ้นมาก็ออกแนว ร้องคาราโอเกะนั่ง Drink กะสาวๆนั่ง Drink (แต่ว่าผมไม่ได้เป็นคนนิยมเครื่องดื่มอะไรประมาณนี้เท่าไหร่หรอกนะครับ) ก็โยนลูกบอลได้รางวัลมาด้วย ไม่น่าเชื่อว่า ผมเล่นเกมส์อะไรแนวนี้น่ะครับไม่เคยได้รางวัลอะไรกะเค้า แต่ว่างวดนี้แปลกเอามากๆเพราะว่าโยนลูกบอลลงตำแหน่งสามลูกติด (เค้ามีให้ทั้งหมดสี่ลูก) เรียกว่าก็ได้รางวัลใหญ่ประจำวันนั้นไปเลยน่ะครับ แปลกดีเหมือนกัน ดวงล่ะมั้งครับ USB 1 GB เลยไม่แน่ใจว่าหนึ่งกิ้กนี่จะเอาคนไหนเป็นกิ้กดีนะเนี่ยะ (เฮอะๆ)
แต่ว่าอย่าหาว่าผมเป็นประมาณว่าคนเที่ยวอะไรเลยน่ะครับถ้าหากว่าไม่ได้เป็นงานเปิดตัวอะไรแบบนี้ก็ไม่ได้ไปไหนแนวๆนี้หรอกนะครับก็บอกช่วยเค้าโฆษณานิดหน่อยเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนพ่อเค้าทำน่ะครับแล้วก็เพื่อนๆผมก็เป็นกลุ่มตลาดซะด้วยซิครับ เพื่อนๆจากอัสสัมเนียะก็ประมาณนี้กันหมดทุกคนน่ะครับ ก็มีแค่คนนึงเท่านั้นที่ไม่ควรเท่าไหร่เพราะว่าแต่งงานแล้วนอกนั้น ณ เวลานี้เท่าที่รู้ข่าวก็เหมือนกะว่าไม่มีคนแต่งงานเพิ่มเติมน่ะครับ (แหม ใครเค้าจะแต่งเร็วตั้งแต่อายุ 27 - 28 กันล่ะครับนั่น)
ผมก็นั่งแก่วอยู่คนเดียวเพราะว่าพวกผู้ใหญ่เค้าก็จะคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้กันแต่ว่าก็ดี ก็จะมีคนมานั่งคุยด้วย เป็นหน้าที่ของคนที่ทำงานที่นั่นอยู่แล้วน่ะครับแต่งตัวสวยๆแล้วก็มานั่งคุยกะเรา อืม ก็คุยได้หมดอยู่แล้วน่ะครับ ปรากฏว่า น้องคนนี้ที่คุยเป็น MC อยู่เลย (มันก็แปลว่าเป็นพวกที่พูดเยอะๆตามงานหรือว่า event ต่างๆน่ะครับ) มีประสบการณ์ในการขายเสื้อผ้าเป็นเจ้าของกิจการมาแล้วมากกว่า 1 ปี มีเงินหมุนต่อเดือนผ่านมือมากกว่า 1 แสนบาทเป็นยอดขายร้านเสิ้อผ้าของเค้า เค้าบอกว่าแต่ก่อนร้านเสื้อผ้ามันก็ทำได้ดี จ่ายค่าเช่า สองหมื่นแล้วก็ค่าจ้างคนเจ็ดพันก็เป็นต้นทุนต่อเวลาไป เอาเสื้อผ้ามาขายจากประตูน้ำ แล้วเพิ่งหลายเดือนที่ผ่านมาก็ออกอาการไม่ดีเท่าไหร่เพราะว่าคนซื้อน้อยผมก็บอกเค้าไปว่า มันก็น่าจะเป็นเรื่อง seasonal effect มากกว่า (เริ่มวิชาการใส่อีกและอ้าวก็อยากจะบอกนี่หน่า เป็นคนพูดเรื่องแบบนี้อ่านเรื่องแบบนี้ตลอดนี่หน่าทำยังไงได้ล่ะครับ) เพราะว่าธุรกิจเสื้อผ้าจากทีสอบถามคนอื่นๆที่เคยทำก็ออกอาการเดียวกัน แล้วก็ช่วงที่ต่ำๆเนียะแน่นอนว่าอาการขาดทุนมีครับ สำหรับคนที่ไมได้ทำออกมาแล้วมี Brand หรือ Design ที่ดีพอ ถึงแม้ว่าน้องเค้าจะทำมาได้ปีหนึ่งพอดี แน่นอนว่าก็ต้องมีพบเจอเรื่องแบบนี้อยู่กับการที่เสื้อผ้าจะขายได้ไม่มีในบางเดือนน่ะครับ ผมก็โม้ไปนั่นไปนี่ว่าอย่างงั้น ยังไงซะผมก็่เล่าว่าคนที่ได้เริ่มทำอะไรแล้วล้มแล้วได้เริ่มมันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีเพราะคิดเอาเองแล้วบอกเค้าไปอีกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องล้ม 1/10 เท่านั้นที่จะอยู่ได้น่ะครับ เพราะนั้นก็แปลว่าทำ สิบอย่างจะมีดีสักอย่างเท่านั้นเอง (ยกเว้น online Business น่ะครับที่ผมดูมันมากกว่า 30% กะทำขึ้นครับของฝรั่งในยุค 2.0 น่ะครับ)
ถามต่อ่วาถ้าล้มแบบนี้แล้วจะทำอะไรต่อ น้องแกก็บอกทันทีว่าจากประสบการณ์ที่เป็น MC มาก็จะมีความสามารถติดตัวและ connection แนวการจัด event ได้ อืม .. ก็คิดว่าน่าจะทำได้ไม่ยากเพราะว่าตัวแกเองก็สามารถเป็น self-employ ได้เพราะว่าทักษะส่วนใหญ่ก็สะสมอยู่ในตัวอยู่แล้วเรียกว่าเอาเรื่องที่เคยทำจากการถูกว่าจ้างมาเป็น know-how แล้วก็บวกกับ connection ทีสร้างสมเอาไว้ เพราะการจัด event นั้นถึงแม้ว่าจะไม่ใช้คนมากมายและกำไรค่อนข้างดี (ยากเว้นว่ามันจะถึกหน่อยเท่านั้นเองตอนที่จะเริ่มจัด อันนี้รู้จากคนที่คุย msn ด้วยน่ะครับที่ทำงานแบบนี้มาแล้วก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่ทำก็แค่ plan concept แล้วก็ connect outsource ออกไป ) ทำให้ทีมงานเพื่อจัดงาน event นั้นไม่จำเป็นต้องมากเรียกว่าสูงสุดสักห้าหกคนก็ถึงว่าลงตัวน่ะครับ ก็โม้ให้น้องแกฟังอีกน่ะหละครับ ^_^
สรุปเอาเป็นว่าจากการที่ได้คุยกะสาวนั่งดริงค์มาเป็นเหยื่อฟังเราโม้แล้วล่ะก็เหมือนกะว่าได้ share ประสบการณ์ที่ผ่านๆมาจากมุมมองที่ต่างกัน สำหรับคนที่ทำงานหนักได้ลองเยอะอย่างและมีความคิดที่จะลุยงานในสายที่ตัวเองเจอะเจอมีส่วนเกี่ยวข้องมาผมว่าเป็นเรื่องดีทั้งนั้น แต่ว่าก็ดูมาราธอนไปหน่อยจะมีต้องมานั่งเมาส์กะแขกน่ะถึงร้านปิด นอนก็ไม่ได้นอนเท่าไหร่ นั่นน่ะหละครับ ชีวิต! แหมใครจะมีมารู้สึกชิวๆเหมือนกะผมล่ะนั่นโอ้ว . .
No comments:
Post a Comment