Tuesday, May 12, 2009

คิดยังไงว่าสังขารไม่ทนอยู่สภาพ (เปลี่ยนแปลงละลายไปอย่างช้าๆ ไม่มีอะไรคงรูปและมันก็หายไป)

สังขารไม่ทนจริงๆนะเนียะ แค่คิดว่าผมกินซอสมะเขือเทศเข้าไป ผมเข้าใจว่าระบบการทำงานของไตจะทำงานเยอะกว่าปกติ ผมสังเกตมาสองครั้งแล้วว่าถ้าหากว่ากินเยอะเป็นมื้อเย็นปุ้บนอนตื่นมาจะมีอาการเหมือนกับปวดเอว (แน่นอนว่าเป็นตำแหน่งของไต แล้วผมก็เคยรู้มาอยู่เหมือนกันว่าไตเอาไว้กรองอะไรที่เค็มเพื่อให้ร่างกายเรามีความสมดุลของเกลือแร่ในเลือด) แสดงว่าการที่ผมกินซอสมะเขือเทศเข้าไปเยอะ(ผมก็คิดว่ามันเยอะครับ)กว่าปกติมากๆ จะทำให้ไตทำงานหนักอย่างเห็นได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ผมไม่ได้คิดแค่นั้นน่ะซิ ผมยังเพ้อต่อไปอีกด้วยว่า .. สังขารมันทนสภาพอะไรได้ไม่ดีเท่าไหร่เลย ตอนเด็กๆมันก็คงเป็นเหมือนกันแต่ว่าเราไม่ได้คิดอย่างนี้เพราะเราก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรมันน่าจะมีผลกับอะไร หรือว่ากินอะไรเข้าไปแล้วมันจะไม่ดีต่อตัวเราอย่างไรครับ ความเสื่อมสภาพของ body เราต้องระลึกเอาไว้เสมอเพื่อที่จะดูแลมันอย่างน้อยที่สุดก็ถนอมมันไว้ใช้ได้ไปอีก 2 หมื่นกว่าวันครับ โดยไม่ต้องเจ็บปวดจากโรคร้ายแรงอะไร (เป็นไปได้หรือเปล่าก็ไม่รู้) อาหารการกินก็ต้องระวังเอามากๆครับ เริ่มตอนนี้ดีกว่าเริ่มเมื่อสาย หรือ เริ่มเมื่อสายดีกว่าไม่เริ่มเลย หรือคิดว่าช่างมันเถอะเดี๋ยวมันก็สลายไปแล้วอย่างงั้นหรือ ?

ข้อมูลเพิ่มเติมอีกหน่อย ที่ว่าสังขารมันไม่ทนนั้น มันเป็นสภาพที่เปลี่ยนแปลงไปอีกตะหากครับ ผมยกตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนกันเลยดีกว่า คือ กระเพาะคนเราเนี่ยะหละ reader digest บอกเอาไว้ว่า กระเพาะมันจะเป็นกระเพาะใหม่ทั้งหมดไม่เหมือนกับกระเพาะเดิมเมื่อ 3 -4 วันที่แล้ว แปลว่าอะไรน่ะครับ ก็แปลว่า มันมีการย่อยแล้วสร้างใหม่ แล้วมันก็ใหม่ทั้งหมด แบบทยอยใหม่ อาการแบบนี้มันจะเป็นกับร่างกายเราทุกส่วนตลอดเวลาที่เราดำรงชีวิตอยู่ที่ภูมิโลกนี้น่ะครับ แสดงว่ามันไม่ทนเอาจริงๆ แค่คิดว่าถ้าการสร้างใหม่ช้ากว่าของเก่า หรือว่าการสร้างใหม่เกิดความผิดปกติขึ้นมาเมื่อไหร่ อวัยวะหรือกายเราบริเวณนั้นจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โอ้วคิดแล้วเห็นภาพจริงๆน่ะครับ ก็เหมือนกับทรายที่มันไปซึมเมื่อโดนแรงลมเป่าชะออกไปทุกที ... ๆ ....

No comments: