Thursday, July 02, 2009

ทำไมต้องมีอาชีพหรือความชำนาญพิเศษ ? ทำไมเราเลือกที่จะทำอะไรเองหรือว่าจ้างคนอื่นทำ ?

คนเยอะแยะที่อยากจะทำอะไรต่อมิอะไรด้วยตัวเองแต่ว่าทำไม่ได้หรือว่าถ้าจะทำได้ก็ต้องใช้เวลาหรือการฝึกฝนมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้คนเกินการ trade ความสามารถกันระหว่าง ผลงาน คุณภาพ กับเวลาครับ เช่น ถ้าหากว่าอยากจะออกแบบบ้าน คนที่ไม่เคยวาดภาพออกแบบบ้านมาก่อนแท้ที่จริงถ้าเค้าจะทำเองทั้งหมดย่อมทำได้ แต่ว่าจะกินเวลาแล้วก็คุณภาพสำหรับผลงานครั้งแรกนั้นไม่น่าจะสู้ดีนัก เรียกว่าจ้างมืออาชีพจะดีกว่าเพราะการออกแบบบ้าน สำหรับคนๆหนึ่งที่คิดจะทำเองนั้น โอกาสที่จะเรียนรู้ได้ทักษะมาซึ่งการออกแบบวาดภาพให้ได้ดีนั้นจะกินระยะเวลามาก แต่สำหรับคนที่ทำแล้วทำอีกทำซ้ำทำซากทำเหมือนเดิม เค้าจะมีความชำนาญมากกว่า เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า สิ่งที่แลกกันก็คือ มูลค่าเป็นตัวเงิน กับผลงานที่จะได้ดีในครั้งแรกทันที และ เวลาที่จะไม่ต้องพัฒนาทักษะหรือฝืมือนั้นหากต้องทำอะไรเองเป็นต้นครับ มันจะเป็นแบบนี้สำหรับการออกแบบ website การสร้าง website หรือการทำอะไรพิเศษๆที่มันไม่คุ้มค่าที่จะเรียนรู้เพราะมีการทำน้อยครั้งในชีวิตครับ สู้ให้คนอื่นที่เค้าทำแล้วทำอีกทำไม่ได้แน่ๆ คนเหล่านั้นก็จะยึดทักษะการที่เค้าเหล่านั้นได้ศึกษาหรือมีการทำซ้ำ (อยู่ในวงการ) มานานแล้วเป็นมูลค่าเพิ่มที่คนอื่นเค้าไม่มีกัน และ ยึดเป็นอาชีพหรือทางไหลเข้าของ income ได้อีกทางหนึ่ง

แนวคิดนี้ทำให้ส่งผลไปยังความคิดต่อองค์กรหรือคนอื่นๆว่า ถ้าหากว่ารู้ว่าเราทำอะไรไมได้ดี หรือว่าขี้เกียจที่จะทำ "จงจ้างมือดีที่สุดที่คุณหาได้มาทำแทนซะ"  เพราะฉะนั้นหากว่าคุณจะทำอะไรก็ได้ในโลกนี้โดยที่ไม่ต้องไปเรียนรู้มันทักษะสำหรับบุคคลธรรมดาที่สำคัญก็คือ "ความสามารถในการค้นหามือดี" นั่นเองครับ ทักษะนี้จะกระจายไปให้คนอื่นไม่ได้ ( ณ เวลานี้ยกเว้นจะมีอาชีพ connector เพื่อค้นหามือที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้ผลงานคุ้มค่าต่อเงินว่าจ้างในหลากหลายสายงานครับ) มันจะออกแนวเหมือนกับการจัดซื้อหน่อยแต่ว่าเรื่องนี้เป็นการว่าจ้างแทนครับ ส่วนมาแล้วการที่จะเลือกว่าใครเป็นมือดีจะถามกันไปมาหรือถามกันในวงสังคมที่ตัวเองมีเพื่อให้มีคนแนะนำกันต่อไปเสียมากกว่า หรือว่าหาตาม forum กับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องทำให้คนที่ active มากๆแล้วมีช่องทาเพื่อติดต่อได้ก็จะได้รับงานที่ตนเองถนัดได้ไม่ยากน่ะครับ เพราะฉะนั้นสำหรับบุคคลที่มีความสามารถอะไรบางอย่างเฉพาะที่คุ้มค่าต่อค่าจ้างก็ต้อง post comment หรืออยู่ตาม forum ที่เกี่ยวข้อง (อันเนื่องมาจากการ search ของ keyword ที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง) แล้วก็ post comment ให้ดีให้เด่นไว้น่ะครับ ทำตัวให้เป็นมือดีคนก็จะเชื่อแล้วครับว่าคุณทำงานได้ดีจริงครับผม

แต่ถ้าหากว่าคิดจะทำอะไรเองนั้นคุณก็ยังคิดที่จะทำได้เพราะผมไม่ได้บอกว่าทุกอย่างจะต้องว่าจ้างคนอื่นออกไปทำ วิธีการคิดว่าคุณควรจะศึกษาเองด้วยหรือไม่นั้นก็คิดไม่ได้ยากเย็นอะไร การคิดต้องคิดว่า เริ่มมาถ้าหากว่าคุณรู้ไปด้วยแล้วจะทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีกว่าเดิมมากๆหรือไม่ เพราะคุณเท่านั้นเป็นคนที่เข้าใจตัวคุณเองมากที่สุด หรือว่าการที่คุณเรียนรู้ทักษะนั้นๆแล้วมันมีประโยชน์คุ้มค่ากับเวลาหรือไม่ ถ้าหากว่าคุณคิดแล้วว่าคุ้มจงลงมือทำเองเลยดีกว่าครับ เพราะคุณจะได้ประสบการณฺ์ในการทำสิ่งนั้น แล้วคุณก็จะเป็นมือดีในสายความสามารถที่คุณสนใจนั้นได้เช่นเดียวกัน คนเราจะต้องมีทักษะเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อเป็นการเติมความรู้ เติมความคิดและความสามารถเข้าไปด้วย แต่อย่างว่าล่ะครับ คุณต้องเชื่อเสียก่อนว่ามันคุ้มค่าที่จะเรียนรู้ เพราะการเรียนรู้มันกินเวลาและพลังงานอย่างเห็นได้ชัด (ทั้งนี้ขึ้นกับความสามารถในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลครับ) จะไม่เท่ากัน บางคนเรียนรู้ได้เร็วก็อัตราความคุ้มค่าก็จะคุ้มเร็วหน่อย โอกาสเลือกที่จะเรียนรู้เองเพื่อทำเองก็จะสูงขึ้น แต่ว่าถ้าหากว่าอัตราการเรียนรู้ในนั้นๆต่ำหน่อย โอกาสความคุ้มต่อการทำเรื่องนั้นๆเองก็จะตำลงมาอย่างเห็นได้ชัดครับ

ความสามารถในการเรียนรู้เรื่องนันๆมันจะเป็นผลสะท้อนมาจากความสนใจ ! เท่านั้นถ้าหากว่าคุณสนใจมันจริงๆ มันสามารถที่จะกินเวลาอย่างที่คุณไม่ต้องรู้สึกว่าโดนดูดพลังงานหรือดูดเวลาไปเท่าไหร่ คุณจะเรียนรู้มันได้เร็วกว่าปกติ เพราะ คุณสนใจมันนั่นเองครับ

และนี่ก็เป็นภาพเหตุและผลว่าทำไมเราเลือกที่จะทำอะไรเอง หรือ ทำไมเราเลือกที่จะจ้างคนอื่นเพื่อทำอะไรบางอย่างนั้นยังไงล่ะครับ

No comments: