Saturday, April 18, 2009

แนวคิดออกกำลังกายแล้วใจจ่ออยู่กับที่อื่นที่ชอบๆ

ตอนที่ผมกลับมาจากโรงงานระหว่างที่นั่งรถก็คิดไปเรื่องที่ว่า “คนเราต้องออกกำลังกายมากกว่า 5000 kcal ++ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและไม่อ้วน” คำว่าไม่อ้วนนั้นเป็นประเด็นที่ผมพิจารณาคำนึงมากที่สุดเพราะว่า หากว่าคนไหนที่มีอาการอ้วน จะทำอะไรไม่สะดวกไม่ว่าจะเป็นการเดินเหิรหรือภาพลักษณ์ก็จะไม่ดีอีกด้วย(ประมาณว่าสาวๆจะไม่รักว่าอย่างงั้น) อีกประเด็นก็คือ เมื่ออ้วนแล้วโอกาสเป็นโรคจะสูงมากขึ้น ทั้งหมดนี้มันก็จะมีแต่ข้อเสีย และมันก็ทำให้ผมรู้สึกว่า ถ้าหากว่าเราอ้วนมันจะตายเอาให้ได้ หรือว่าตายไม่ยากนั้นเอง สิ่งนี้คือสิ่งเดียวที่เราต้องการจะต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตที่ดี(หากว่ามันดี)ของเราเอาไว้ให้ได้ ไม่ว่าด้วยการกระทำอะไรก็ตาม

อีกมุมมองหนึ่งที่สวนทางกันก็คือ การออกกำลังกายถือว่าเป็นเสียเวลาหรือไม่ เพราะหากว่าเราไม่ได้สนุกกับมันหรือมันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาเลย นั่นก็อาจจะพิจารณาได้ว่ามันเป็นการเสียเวลาเพื่อออกกำลังกาย โดยมากแล้วคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมักจะรู้สึกดีกับตัวเองที่มาออกกำลังกาย เพราะอย่างน้อยที่สุดเค้าก็จะรู้สึกว่ามันหนีข้อเสียที่ผมพิมพ์เอาไว้ที่ด้านบนได้แล้ว แล้วก็รู้สึกว่าอยู่เหนื่อคนอื่นๆ(ที่ไม่ได้ออกกำลังกายหรือสุขภาพไม่ดีอันเนื่องมาจากการไม่ได้ออกกำลังกาย) หรือถ้าหากว่าเป็นคนที่เล่นกล้ามก็จะรู้ว่าตัวตนของตัวเองนั้นมีกล้ามแล้วก็ทำให้คนอื่นคิดว่าเป็นพวกที่จะต้องแข็งแรงแน่ๆ ด้วย อืม .. ผมสังเกตอยู่เหมือนกันนะครับว่า ทุกอย่างอยู่ที่ความรู้สึกทั้งสิ้นเลยครับ อย่างงั้นก็ออกกำลังกายเพื่อให้เรารู้สึกเท่านั้นน่ะหละ รุ้สึกว่าเรารักษาชีวิคและคุณภาพชีวติของเรา อย่างงั้นเหรอ ?

การออกกำลังกายหากเราออกแบบที่มันน่าเบื่อ(สำหรับเรา) แล้วมันก็จะถูกพิจารณาได้ว่าเป็นสิ่งเสียเวลา เพราะฉะนั้นทางแก้หนึ่งที่ทำได้ก็คือ การ combine ผนวกสิ่งที่เราชอบทำแล้วเอาใจจดตั้งไว้กับสิ่งนั้นแล้วก็ให้ร่างกายส่วนที่เหลือทำในสิ่งที่คิดว่าน่าเบื้อเพื่อให้ร่างกายเราได้รับประโยชน์ทางกายภาพ (การถ่ายพลังงานออกจากร่างกายมากกว่า 5000 kcal เพื่อลดน้ำหนัก หรือ ควบคุมน้ำหนัก)

พอคิดได้อย่างงี้แล้วผมก็จะจัดการเอาโต้ะมาตั้งเอาไว้ที่กับเครื่องปั่นจักรยานที่มันอยู่กับที่ แล้วก็เอาคอมวางไปซะ ทีนี้ผมก็จะเล่น computer อาจจะอ่าน blog หรือ อ่าน feed ระหว่างการออกกำลังกายไปด้วยได้ครับ หรือว่า chat ๆ ไปด้วยก็ยังได้เลย มันจะทำให้เราจ่ออยู่กับหน้าจอ กิจกรรมใดๆที่อยู่หลังหน้าจอนั้น (อาจจะเป็นดูหนังก็ได้น่ะครับแต่ว่าสำหรับผมแล้วการดูหนังที่ไม่ได้อยากจะดูมันก็เป็นการเสียชีวิตอยู่ดีน่ะหละ เนาะ คนเราควรทำในสิ่งที่คิดว่า มันคุ้มค่ากับการที่จะต้องเสียชีวิตทำมันน่ะครับ) ว่าแล้วพอผมกลับไปถึงบ้านแล้วผมจะลองทำตามนี้ดูว่ามันเป็นไปได้เหรอป่าวน่ะครับ .. เฮอะๆๆ เพราะว่าอย่างน้อยผมตอนนี้ผมเจ็บขาอยู่(อาจจะวิ่งได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก วิ่งแล้วก็ช้าอัตราการเผา kcal ก็ต่ำ) ก็อาจจะไปปั่นจักรย่านอยู่กับที่แทนก็ยังได้เพราะว่า มันก็เป็นออกกำลังกายเหมือนกัน และมันก็ใช้กล้ามเนื้อที่ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ กับชุดที่ผมมีปัญหาอยู่ครับ แล้วลองแล้วได้ผลว่ายังไงจะพิมพ์เก็บข้อมูลกะความคิดกระฉุดอีกทีน่ะครับ .. เย้

No comments: